I Need You Now, Mr Guide! (แหม่มปล้ำไกด์ “I Need You”)

• คืนนั้นกว่าจะดูโชว์รอบสองเสร็จสองแหม่มของผมก็เมาได้ที่ไปเลย ก็จะไม่ให้เมาได้ไง แม่เสือสาวสองตัวนั้นดื่มสลับทั้งเบียร์ไทยและวิสกี้กันมั่วไปหมด บางทีเมาจัดหยิบแก้วของผมไปดริ๊งค์หน้าตาเฉย…“ไปมิสเตอร์ไกด์ พาไอกลับโรงแรมได้แล้ว คืนนี้สนุกน่าดู”แหม่มบราวน์ร่างอวบยักคิ้วหลิ่วตาให้หนุ่มไทยร่างหนาอย่างผมพร้อมกับโอบไหล่ผมราวกับสนิทกันมานาน…แล้วสิ่งที่ผมนึกไม่ถึงก็คือแหม่มโจนส์ร่างบางแต่อกโตนั้นดึงบุหรี่ออกจากปากแล้วก้าวเข้าจูบปากกับแหม่มบราวน์หน้าตาเฉย (จากเรื่อง “อ๊อปชั่นทัวร์”)
• ยิ่งตอนที่สาวสวยราวกับเป็นนางเงือกแห่งลุ่มเจ้าพระยาคนนี้เธอขยับปมผ้าถุงออกแล้วล้วงมือลงไปทำความสะอาดให้กับเรือนร่างท่อนบนนั้น…ไอ้ร็อคกี้คนนี้เกิดอาการ “jaw drop” (จอว์ ดร็อป) หรือ “กรามตก” ซึ่งก็หมายถึง “กรามค้าง” และไม่แตกต่างจาก “อ้าปากหวอ” ไปเลย…อุแม่เจ้า…สาวชาติไหนๆก็อาบน้ำในโจมผ้าถุงได้ไม่สวยเท่าสาวไทย…จะมีข้อยกเว้นอยู่บ้างก็ตอนที่สาวรายนั้นเป็นสาวลูกครึ่ง ไทย-อังกฤษ นี่แหละ…(จากเรื่อง “สาวอเมริกันในเรือโยง”)
• ที่ต้องโทษอะไรบางอย่างจากบาร์เฮียเจ็งก็คือ…ไอ้ป๊อดคนแสดงเซ็กส์โชว์หรือไทเกอร์โชว์นั่นแหละที่ทำให้ผมต้องเดือดร้อน…ก็ลีลาการแสดงของมันกับน้องติ๋มบนเวทีนั้นทำเอาแหม่มสาวชาวโปลด์ที่ต่างก็เป็นหม้ายกันทุกคนนั้นเกิด “ฟิลลิ่ง”กันขึ้นมาติดหมัด (จากเรื่อง “ไก่แก่โปแลนด์”)
• “อูย แหม่มจะค้างที่นี่เรอะ บ้านกูไม่มีแอร์ ไม่มีสะดวกสบายแบบโรงแรมนะโว้ย บอกแหม่มด้วย”ไอ้แก่พูดพลางขยับเกงเกงยีนส์ที่คับติ้วของมันไปมา …เสื้อกล้ามที่มันใส่อยู่นั้นชุ่มโชกไปนานแล้วเพราะอากาศมันอ้าว…เบื้องล่าง เสียงน้ำป๋อมแป็มดังไม่ขาดสาย เพราะบ้านมันติดคลอง ดีว่าสวนส้มมันยกคันดินเอาไว้สูงเลยเป็นสวนส้มที่ยังไม่ล่มอยู่ไม่กี่สวนในเวลานั้น…แหม่มอิงก้าทำให้ไอ้แก่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นด้วยการถอดเสื้อยืดออก เหลือแต่ยกทรง ส่วนแหม่มมาร์ธาร่างเล็กเห็นแบบนั้นก็เลยทำตามบ้าง (จากเรื่อง “รักในสวนส้ม”)
• ที่หัวสะพานริมคลอง น้ำใสแจ๋ว นานๆครั้งจะมีเรือหางยาวผ่านมาซักทีเพราะผู้คนหันไปซื้อรถและแห่กันไปซิ่งกันบนถนนที่อยู่ไม่ไกลจากคลองนักแทนที่ และเวลาสองวันที่จอยมาพักบ้านริมคลองหลังนี้ก็มากพอที่จะทำให้สาวใจกล้ารายนี้คิดอยากหาประสบการณ์เล่นน้ำคลองกับผมในชุดว่ายน้ำชาวบ้านที่มีแต่ผ้าขาวม้ากับกระโจมผ้าถุง(ของพี่สาวผม แอบหยิบมาใช้)แล้ว (จากเรื่อง “เงือกจากบอสตัน”)
• ไม่น่าเชื่อว่าอีก 3 คืนก่อนที่จะบินต่อไปที่ญี่ปุ่นนั้นเธอกลับทำให้ “ฝันของไอ้ร็อคกี้เป็นจริง”ได้อย่างน่าทึ่งที่สุด…“อยากรู้จักผู้ชายไทย”…ถือเป็นคำตอบง่ายๆที่ได้ใจความ…และมันทำให้ผมได้นอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับเธอที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเกาะทางใต้ของเมืองไทย (จากเรื่อง “เธอชื่อมิโกะ”)
• ไอ้ตอนที่ดูโชว์นี่ผมว่ามันทะแม่งๆพิลึก เพราะตอนแรกที่เห็นว่าคู่ใครคู่มันนั้นตามที่ระบุชื่อและนามสกุลลูกทัวร์มาผมว่ามันก็เหมาะหรือเข้าท่าดีอยู่ แต่พออยู่ในความมืดสลัวผมเห็นเขาสลับคู่กันหน้าตาเฉยเลย (จากเรื่อง “สลับคู่แต่งงาน”)