Icon Close

หิมพานต์ เล่ม 4

หิมพานต์ เล่ม 4
สำนักพิมพ์singkornbangkok
5.00
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
1 Rating
ซีรีส์
ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
22 มีนาคม 2559
ความยาว
444 หน้า (≈ 70,660 คำ)
ราคาปก
250 บาท (ประหยัด 48%)
หิมพานต์ เล่ม 4
หิมพานต์ เล่ม 4
5.00
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
1 Rating
“ท่านแม่ทัพจะไปยังที่หนใดครับ”
“ที่ไหนก็ได้ ที่มันสงบ แปลกตา ข้าต้องการพักผ่อน” สัทธาบอก
“งั้นไปที่ตรงนี้เลย รับรองแปลกตาท่าน และท่านจะต้องชมชอบแน่ๆ เมืองมนุษย์ของท่านคงไม่มี”
“ที่ไหนวะเมธี” สัทธาสงสัย
“ผมไม่ขอบอก ไว้ท่านแม่ทัพเห็นเองดีกว่าจะได้ตื่นเต้นครับ”
“บ่ะ เกิดเอ็งพาข้าไปตายล่ะจะทำยังไง หรือพาไปในที่ที่ซึ่งไม่เจริญหูเจริญตา ข้าต้องการพักผ่อน ดูที่เจริญหูเจริญตานะโว้ยเมธี”
“คุณก็…เมธีไม่พาคุณไปพบกับความเคร่งเครียดหรอกน่า” ปาจารีย์ตอบแทนกินนรพาหนะ
“งั้นท่านแม่ทัพฟังโวหารของผมถึงสถานที่จะไปดูนะครับ…”
“งั้นก็บรรยายมาซิวะ”
กินนรเมธีรีบร่าย….. “ที่สูงเยี่ยมเทียมฟ้า นั่นหนาต้นนารีผล
รูปร่างเหมือนอย่างคน ดูงามพ้นคณนา
ยิ้มย่องทั้งผ่องพักตร์ วิไลลักษณ์ดั่งเลขา
น้อยน้อยห้อยระย้า เทพยาธรเฝ้าคอย
ที่มีฤทธิ์ปลิดเด็ด อุ้มระเห็จแล้วเหาะลอย
พวกนักสิทธิ์ฤทธิ์น้อย เอาไม้สอยเสียงอลอึง
บ้างตะกายป่ายปีน เพื่อนยึดตีนตกดังตึง
ช่วงชิงด้วยหวงหึง เสียงอื้ออึงพัลวัน
ที่มิได้ก็ไล่แย่ง คลั่งทิ่มแทงแล้วฆ่าฟัน
ที่ได้ครอบครองนั้น ถึงเจ็ดวันก็เน่าไป”
“เฮ้ย เอ็งจะพาข้าไปดูมักกะลีผลใช่มั้ยวะเมธี” สัทธาถามเสียงตื่นเต้น
“ใช่ครับท่านแม่ทัพ ท่านพอใจจะไปมั้ยล่ะ”
“ไปซิวะถามได้ หาดูได้ที่ไหนอีกเล่าของแปลกประหลาดแบบนี้”
ปาจารีย์หน้าแดงระเรื่อ… “เมธีก็ถามได้ ของชอบท่านแม่ทัพทีเดียวแหละ”
“หรือครับ แต่ท่านแม่ทัพมีเจ้าแล้วนี่ปาจารีย์” กินนรเมธีแย้ง
“แหม…มีฉันก็มีไปสิ ส่วนมักกะลีผล มันของชั่วคราว ท่านแม่ทัพได้ชิมแล้วก็ทิ้งขว้างไป ส่วนฉันนั่นอยู่กันไปอีกนาน”
“ใช่ครับ มักกะลีผลนั้นแค่เจ็ดวันก็เหี่ยวเฉาเน่าเฟะไปแล้ว”
“เอาละๆ พาข้าไปดูเดี๋ยวนี้เลย ของแบบนี้หาดูไม่ได้อีกแล้วชาตินี้ อีกไกลมั้ยวะเมธี”
“บนยอดดอยเบื้องหน้าโน่นแหละ”
สัทธากับปาจารีย์มองลงไป เห็นยอดดอยที่ปกคลุมด้วยแมกไม้หนาทึบ มองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น
ขณะนั้นซุ่มเสียงเรียกมาทางด้านหลัง “สัทธา ปาจารีย์รอด้วย”
ทั้งคู่หันขวับไปมองข้างหลัง ต้องหลุดปากออกมาพร้อมๆกัน…
“สาธุ!”
“พวกเอ็งจะไปไหนกันวะ ข้าไปด้วยคนซิวะ”
“เมธีจะพาไปดูมักกะลีผลนะท่านสาธุ” ปาจารีย์บอกแข่งกับเสียงลมแรง
“งั้นไปดูด้วยโว้ย” สาธุตะโกนบอกแข่งกับเสียงลม
จากนั้น…สาธุก็บินตีคู่กับเมธี ซึ่งรีบบอก… “ท่านสาธุ ผมจะร่อนลงยอดดอยเบื้องหน้านี้แล้ว เป็นดอยที่มีต้นมักกะลีผลขึ้นเพียงต้นเดียวเท่านั้น”
“งั้นก็ลงไปซิวะ”
เท่านั้นเอง…กินนรแท้กับกินนรเทียมก็ร่อนลงบริเวณเชิงดอย เมื่อเท้าเหยียบพื้นดินบนดอยเท่านั้นก็ต้องตื่นตาตื่นใจ เพราะมีผู้มาคอยสอยมักกะลีผลมากมายนับร้อยเลยทีเดียว มีหลายเผ่าพันธุ์ด้วย เสียงอื้ออึงได้ยินไปไกลถึงตีนดอยเบื้องล่าง
สายตาหลายสิบคู่มองมาที่ทั้งสี่อย่างแปลกใจ เพราะมีมนุษย์ชายหญิงแปลกหูแปลกตามาบนหลังกินนร
“เมธี พวกนี้คอยเก็บมักกะลีผลกันเรอะ” สัทธาถาม
“ใช่แล้วท่านแม่ทัพ” เมธีพยักหน้ารับ พร้อมกับบอกเตือนด้วยว่า “ระวังตัวหน่อยนะครับ เพราะท่านแม่ทัพแปลกตาสำหรับพวกมัน ก็รู้ๆอยู่พวกมันรังเกียจมนุษย์”
“ระวังอยู่แล้ว แต่ข้ามาดี มาเพื่อดูของแปลกตา ไม่ได้มาหาเรื่องใคร” สัทธาบอกเสียงกระหึ่ม
“ดีครับ ผมจะพาดูให้เต็มตาเลย แล้วท่านแม่ทัพกับปาจารีย์จะตื่นตาตื่นใจ”
“เธออธิบายหน่อยสิเมธี มีพวกไหนบ้าง ฉันเห็นรูปร่างแปลกตาทั้งนั้นเลย” ปาจารีย์บอก
“มีทั้งหมดห้าพวกครับ ที่นิยมมาเก็บมักลีผลไปเป็นเมีย ดูพวกนั้นก่อน...ทางโน้นนะครับเป็น
พวกวิทยาธร เป็นเทพชั้นต่ำ รูปร่างสมบูรณ์แบบหมด ไม่ใช่ลูกครึ่งอะไรทั้งสิ้นอย่างที่ท่านแม่ทัพเคยว่า”
สัทธา สาธุ และปาจารีย์ ซึ่งหยุดอยู่กับที่ใต้ร่มไม้ใหญ่ มองไปตามที่กินนรเมธีชี้ ต้องโพล่งกันเบาๆ…“นี่นะเหรอวิทยาธร”
“ใช่ครับ เป็นพวกชอบเล่นดนตรีให้เทพชั้นสูงฟัง เพราะวิทยาธรเป็นเทพที่ต่ำชั้นกว่าเทวดาหน่อยหนึ่งนะครับ”
“แล้วคนธรรพ์ล่ะ” ปาจารีย์ถาม
“ก็เทพชั้นเดียวกัน ชอบเล่นดนตรีเช่นเดียวกันด้วย แต่คนธรรพ์ไม่มา”
“อืมม…เป็นเทพรูปงามเอาการ ท่าทางไม่เอาเรื่องร้ายๆเท่าไหร่นะเมธี” สัทธาว่า
“ใช่ครับท่านแม่ทัพ พวกมันเล่นแต่ดนตรีเท่านั้น ตีรันฟันแทง ฆ่าฟันบั่นเนื้อไม่ชอบครับ”
“อยากคบหาด้วยว่ะเมธี ไม่รู้จะรังเกียจมนุษย์อย่างข้ามั้ย”
“เรื่องนี้ผมก็ไม่ทราบนะครับท่านแม่ทัพ เดี๋ยวผมจะพาไปคุยด้วย ส่วนวิทยาธรเหล่านั้นยอมคุยด้วยหรือไม่ผมไม่อาจคาดเดาได้” กินนรเมธีว่า
“เอาเหอะน่า เราคุยด้วย ใครไม่ยอมคุยกับเราก็ไม่เป็นไร เฮ้ย…แล้วพวกทางขวามือนั่นล่ะพวกไหน คล้ายกินนรอย่างพวกเองนะเมธี”
“ไม่ใช่หรอกครับ แต่ก็มาจากที่เดียวกับพวกผม พวกเขาคือเทพนรสิงห์ ท่านดูให้ดีๆซิครับ ตั้งแต่เอวลงไปพวกเขาเป็นสิงห์ มีหางแบบสิงห์ ไม่มีปีกเหมือนพวกผม จึงเรียกว่าเทพนรสิงห์ พวกนี้ฤทธิ์มากเหมือนกัน”
“พวกข้างหน้านั่นล่ะ มีปีกมีหางเหมือนเธอนะเมธี” ปาจารีย์สงสัย
“เทพปักษีครับ มีปีกมีหางเหมือนกินนรจริง แต่เจ้าดูแข้งขาสิ เหมือนพวกเจ้านะ เป็นครึ่งเทพครึ่งนกยังไง”
“แปลกนะไม่ยักมีตีนเหมือนพวกเอ็งนะเมธี”
“ใช่ครับท่านแม่ทัพ พวกนี้มีฤทธิ์พอๆกับเทพนรสิงห์เมื่อกี้ เพราะเป็นพวกครึ่งนกครึ่งเทวดา”
“เดินขึ้นไปอีกหน่อยเถอะ ดูจะมีพวกอสูรยั้วเยี้ยอยู่ข้างบนนะ” สาธุบอก
ทั้งสี่จึงเดินขึ้นไป ท่ามกลางสายตาหลายสิบคู่ที่มองมา เมธีรีบอธิบาย…
“พวกที่เหมือนอสูรที่ท่านสาธุว่าน่ะ เป็นพวกรากษสครับ”
“รากษส”
ต่างก็ทวนชื่อนั้นเป็นเสียงเดียวกันหมด

“สิงขร” ขอเชิญผู้อ่านทุกท่าน ติดตามเรื่องราวเหล่านี้จากผลงานเรื่องเยี่ยมที่บรรจงสรรค์สร้าง ที่ให้ความสนุกเข้มข้นครบทุกรส แปลกไม่ซ้ำแบบใคร เสมือนหนึ่งว่า...ท่านกำลังท่องอยู่ในดินแดนหิมพานต์ ก็ไม่ปาน
แฟนพันธุ์แท้ของ “สิงขร” ต้องไม่พลาด รับรองว่า...มันส์ทุกหยด สนุกทุกบรรทัด จนคุณวางไม่ลงอย่างแน่นอน
ซีรีส์
ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
22 มีนาคม 2559
ความยาว
444 หน้า (≈ 70,660 คำ)
ราคาปก
250 บาท (ประหยัด 48%)
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
คุณสามารถล็อกอินเพื่อแสดงความคิดเห็นได้จ้า