กลลวงรักเจ้าทะเลทราย

กราฟชีวิตของ ‘อันนา ไชยภพ (ดุจดารา อรรถนนท์)’ ต้องดิ่งลงถึงจุดต่ำสุดเมื่อได้เจอ ‘มูซามิล บิน โมฮา อัล อะเลญาห์’ เขาคือลูกค้าเจ้าปัญหา ที่ทำให้เธอต้องรับผิดชอบปัญหาที่เกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจด้วยการลาออกจากงานพาร์ตไทม์ ทั้งๆ ที่เธอเพิ่งจะเริ่มทำงานเป็นวันแรก
การได้เจอคนร้ายกาจอย่างเขานับว่าเป็น ‘เคราะห์ใหญ่’ ที่สุดในชีวิตของเธอ เพราะเธอถูกดึงไปเป็นหมากในเกมการแค้นระหว่างเขากับศัตรู

ความอวดดื้อถือดี หยิ่งในศักดิ์ศรีและทะนงตนของอันนา ทำให้มูซามิลอยากเอาชนะ เขาตัดสินเธอจากความเคยชินว่าเธอรักความสบาย คงสนใจจะร่วมทำธุรกิจบนเตียงกับเขา แต่สิ่งที่เขาคิดอย่างมั่นใจกับความจริงที่เกิดขึ้น มันสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง เธอปฏิเสธข้อเสนอของเขาอย่างไม่ไยดี

อันนาอยากได้อิสรภาพ มูซามิลต้องการตัวเธอ เลยยื่นข้อเสนอ แต่จะมีผู้หญิงคนไหนภูมิใจกับตำแหน่ง 'เมียบำเรอ' เธอเลยจากมาพร้อมกับ 'ลูกน้อยในครรภ์' เขาจะไม่มีวันรู้ความลับในเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาที่เธอซ่อนเอาไว้

มูซามิลมองเธอด้วยแววตาสุดจะหน่าย
“ขนาดโดนมัดไว้ คุณก็ยังไม่ยอมแพ้ คุณนี่ดื้อดึงจริงๆ นะ ดอกทานตะวันจากเมืองไทย”
“ขอบอกให้รู้ว่าฉันจะหนีทุกครั้งที่มีโอกาส” เธอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดวงตาฉายชัดถึงความแน่วแน่
เขาก้าวสองก้าวก็มาอยู่ตรงข้ามกับเธอ
“ขอบอกให้รู้ว่าทุกครั้งที่คุณหนี คุณก็จะถูกผมลงทัณฑ์รัก”
ขึ้นชื่อว่า ‘ทัณฑ์’ ในความคิดของอันนา คำคำนี้มีความหมายในแง่ลบ ทัณฑ์รักที่เขาพูด ก็คงไม่พ้นเรื่องเซ็กซ์ เขาเพียงแค่ใช้คำที่ฟังแล้วดูดีเท่านั้น
“ถ้าจะต้องเกี่ยวข้องกับคุณ ฉันยอมตายดีกว่า” เธอไม่เคยเกลียดชังใครมากขนาดนี้มาก่อน
หัวใจของเขาเกิดอาการแกว่งๆ เมื่อฟังคำพูดนั้นของเธอ แม้เธอจะไม่ได้เอ่ยตรงๆ แต่เขาก็รู้ความหมายของมันดีว่าเขาน่ารังเกียจจนเธอไม่อยากใกล้ชิด
มีแต่เธอที่ปฏิเสธเขา ทำให้เขาเสียหน้าอย่างที่สุด ความรู้สึกนี้เป็นแรงหนุนให้เขาอยากเอาชนะเธอให้ได้

หมายเหตุ 1 : นิยายเรื่องนี้ ชื่อเดิมคือ “บำเรอสวาททาสเสน่หา” ผู้เขียนได้เปลี่ยนชื่อเรื่องเพื่อเลี่ยงใช้บางคำที่เจาะจงมากเกินไป เคยตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์แสนรัก ในเครือไลต์ ออฟ เลิฟ เดือนตุลาคม พ.ศ.2557 ปี 2562 ผู้เขียนนำเนื้อหามาปรับปรุง แก้ไข บางส่วนที่ไม่สมเหตุสมผล ก็เติมรายละเอียดเข้าไป ตัดคำฟุ่มเฟือย โครงเรื่องยึดตามเดิมประมาณสี่สิบเปอร์เซ็นต์ และเพิ่มเนื้อหาใหม่อีกหกสิบเปอร์เซ็นต์